xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ FBI ค้นบ้านทรัมป์ สะท้อนความยุติธรรมเลือกข้าง ตอกย้ำอเมริกาคือ 'สาธารณรัฐกล้วย'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ปัจจุบันกำลังเกิดการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในสหรัฐฯ ซึ่งสถาบันเดโมแครตอยู่บนเส้นทางของการควบคุมทุกคันโยกอำนาจ ไล่ตั้งแต่สถาบันวิชาการ ไปจนถึงสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ ลางบอกเหตุที่ชัดเจนที่สุดคือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหลาย ที่มีหน้าที่สืบสวนและจับกุมอเมริกา และเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฉุดสถานการณ์เสื่อมทรามลงไปอยู่ในจุดที่ชาวอเมริกาจำนวนมากเห็นด้วยกับคำพูดของ รอน เดอซานติส ผูัว่าการรัฐฟลอริดา ที่ให้คำจำกัดความประเทศของเขาว่าเป็น "สาธารณรัฐกล้วย" ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความเห็นของโรเบิร์ต บริดจ์ นักเขียนและสื่อมวลชนชาวสหรัฐฯ

ความเห็นของ โรเบิร์ต บริดจ์ ผู้เขียนหนังสือ 'Midnight in the American Empire,' How Corporations and Their Political Servants are Destroying the American Dream. มีขึ้นตามหลังเอฟบีไอปฏิบัติการจู่โจมครั้งใหญ่คฤหาสน์มาร์อาลาโก บ้านพักของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธราว 100 นาย ภายใต้การสนับสนุนของยานยนต์หุ้มเกราะ ทำการปิดล้อมคฤหาสน์ของทรัมป์ในฟลอริดา ดูเหมือนเป็นการจู่โจมค้นหาเอกสารลับบางอย่างที่อ้างว่า ทรัมป์ ไม่ได้ส่งคืน หลังออกจากทำเนียบขาวในปี 2020

บริดจ์ ระบุว่า ตั้งแต่ครั้งที่ ทรัมป์ สร้างความช็อกแก่สถาบันการเมือง ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี 2016 บรรดาหน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหลายยังคงประจบประแจงจงรักภักดีต่อเดโมแครต ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นและสอบปากคำบรรดาคนใกล้ชิดของทรัมป์ อย่างเช่น สตีฟ แบนนอน โรเจอร์ สโตน ไมเคิล โคเฮน และไมเคิล ฟลีนน์ แน่นอนว่าเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ แต่มันไม่ใช่ประเด็น เพราะรูปแบบการจับกุมยามค่ำคืนลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเดโมแครต และไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ แต่เพราะมีเจ้าหน้าที่อยู่ฝั่งเดียวกับพวกเขา

ข้อเขียนนี้พาดพิงถึงกรณีนางฮิลลารี คลินตัน กับอีเมล 33,000 ฉบับที่สูญหายไป ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดพอๆ หรือเลวร้ายกว่าการที่ ทรัมป์ ไม่ยอมคืนเอกสารลับหลังออกจากทำเนียบขาว คลินตันใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวส่งอีเมลลับสุดยอดถึงบรรดาเพื่อนร่วมงาน ซึ่งถือเป็นการละเมิดระเบียบการอย่างร้ายแรงและมีโทษจำคุก 15 ปี เธอได้รับการฟอกขาวในสภาคองเกรส ผิดกับ ทรัมป์ ที่โดนกองทัพของหน่วยงานรัฐบาลกลางบุกคฤหาสน์มาร์อาลาโก

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ ฮันเตอร์ ไบเดน และข้อมูลหลุดจากแล็ปท็อปของเขา ซึ่งมันเป็นโอกาสเหมาะอย่างยิ่งที่ทางเอฟบีไอ จะดำเนินการสืบสวน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้กลับถูกปล่อยผ่านไป แม้มีข้อสันนิษฐานว่าข้อมูลเหล่านั้นอาจเต็มไปด้วยความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ซึ่งอาจก่อคำถามมากมายว่า มีการใช้ผลประโยชน์ทางการเมืองของครอบครัว และทักษะมาร์เกตติ้งของฮันเตอร์ เพื่อประโยชน์ทางลับหรือไม่

บริดจ์ ตั้งข้อสังเกตว่าหากแล็ปท็อปเจ้าปัญหาดังกล่าวเป็นของ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของทรัมป์ เป็นเรื่องไม่ยากเลยที่จะสันนิษฐานว่า บรรดาสื่อมวลชนทั้งหลาย ยกเว้นแต่ฟ็อกซ์นิวส์ คงจะกระวีกระวาดประโคมข่าว ตีข่าวบนทุกช่องทาง จากนั้้นเจ้าหน้าที่จะกรูกันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นครึกโครม

อย่างไรก็ตาม พอปรากฏว่าเจ้าของแล็ปท็อปดังกล่าวเป็นลูกหลานของเดโมแครต ตอนที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ตีข่าว บรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายก็ปล่อยผ่านข่าวนี้ ในขณะที่ทวิตเตอร์ ทำยิ่งกว่านั้น ด้วยการระงับบัญชีของนิวยอร์กโพสต์ โทษฐานที่แชร์ข่าวดังกล่าว ดูเหมือนว่าบรรดาสำนักข่าวทั้งหลายจะเป็นมิตรกับเดโมแครตเหมือนกันหมด และช่างบังเอิญเหลือเกินที่พวกเขากระตือรือร้นแพร่กระจายเรื่องราวที่กล่าวหา ทรัมป์ สมคบคิดกับรัสเซีย เพื่อชนะเลือกตั้งเข้าสู่ทำเนียบขาว คำกล่าวหาที่ตามไล่ล่าทรัมป์ตลอด 4 ปีของการทำหน้าที่ในทำเนียบขาว

ในสัปดาห์นี้ เมื่อครั้งที่สื่อมวลชนร้องขอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นคฤหาสน์มาร์อาลาโก อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทาง เมอร์ริค บี การ์แลนด์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ บอกว่า "ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย" แต่ทาง บริดจ์ เขียนเหน็บว่า ถ้า การ์แลนด์ เป็นคนที่ซื่อสัตย์และเป็นชายที่ตรงไปตรงมามากกว่านี้ เขาคงพูดว่า "ยกเว้นเรา เดโมแครต"

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น