xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด สธ.แจงยังพบ “โควิด” ระลอกเล็กได้ กำชับ รพ.เตรียมพร้อมตามปกติ ไม่ต้องยกเตือนภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ปลัด สธ.แจงหลังพ้นระบาดใหญ่ ยังพบโควิด” ติดเชื้อเป็นระลอกเล็กได้ หลังผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ขณะนี้พบแนวโน้มติดเชื้อสูงขึ้น กำชับหน่วยงานสาธารณสุข และ รพ.เตรียมพร้อมรองรับตามปกติ ทั้งบุคลากร เตียง ยาและเวชภัณฑ์ ไม่ต้องยกระดับแจ้งเตือนภัย ย้ำเข้มมาตรการป้องกันตนเอง-ฉีดวัคซีนกระตุ้น ช่วยลดติดเชื้อระลอกเล็ก

จากกรณีชมรมแพทย์ชนบทออกมาโพสต์ถึงหนังสือสั่งการของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถึงผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพ กำชับหน่วยบริการสุขภาพในสังกัดเตรียมพร้อมรองรับการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่นั้น

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทย เข้าสู่ระยะหลังการระบาดใหญ่ (Post-Pandemic) ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจากนี้เราต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด (Living with COVID) เหมือนอย่างโรคอื่นๆ ซึ่งหมายความว่า ยังสามารถพบการติดเชื้อได้แต่ความรุนแรงของโรคลดลง การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะไม่มากเกินระบบสาธารณสุขจะรองรับได้ ทั้งนี้ จากการผ่อนคลายมาตรการ เปิดกิจการและกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงมีการเปิดประเทศ ทำให้มีผู้เดินทางเข้าประเทศมากขึ้น อาจพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นระลอกเล็กๆ (Small Wave) ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะไม่ใช่การระบาดใหญ่ โดย สธ.มีการเตรียมความพร้อมรองรับตามแนวทาง 3 พอ คือ หมอพอ เตียงพอ ยาและเวชภัณฑ์พอ

“ขณะนี้สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นระลอกเล็กๆ จึงมีการเตรียมความพร้อมระบบสาธารณสุขไว้รองรับ โดยกำชับและแจ้งไปยังหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ ให้บุคลากรทางการแพทย์ระมัดระวังป้องกันตนเองในการให้บริการ เตรียมความพร้อมยา เวชภัณฑ์ สำรองเตียง ความพร้อมระบบส่งต่อ และเร่งเดินหน้าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในการคงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล จะช่วยลดการติดเชื้อและหยุดระลอกเล็กๆ เหล่านี้ลงได้” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงแจ้งเตือนภัยโควิด-19 ในระดับ 2 ยังไม่จำเป็นต้องยกระดับการแจ้งเตือน โดยในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด เน้นตามมาตรการ 2U ได้แก่ Universal Prevention คือ มาตรการป้องกันโรค ทั้งเว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก แม้จะมีการออกประกาศให้สวมหน้ากากโดยสมัครใจ แต่แนะนำให้ยังต้องสวมในกลุ่มผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลุ่มที่เสี่ยงติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง รวมถึงยังต้องสวมเมื่อไม่สามารถเว้นระยะห่างจากผู้อื่นได้ การเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก การอยู่ในสถานที่เสี่ยงหรือสถานที่แออัด และ Universal Vaccination คือ มาตรการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม โดยเฉพาะเข็มกระตุ้น เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ช่วยป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต ทำให้ลดการเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยหนักใน รพ. และระบบสาธารณสุขสามารถรองรับได้
กำลังโหลดความคิดเห็น