xs
xsm
sm
md
lg

ทำเนียบขาวยันไม่มีซัมมิตไบเดน-สีจิ้นผิง ปักกิ่งเตือนวอชิงตันคิดขัดขวางจีนพัฒนา “มีแต่จะต้องล้มเหลว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ เวนดี้  เชอร์แมน (ซ้าย) เข้าพบ หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ เมืองเทียนจิน ประเทศจีน เมื่อวันจันทร์ (26 ก.ค.)
ทำเนียบขาวยืนยันไม่มีการหารือเรื่องซัมมิตไบเดน-สี จิ้นผิง ระหว่างการเยือนจีนของรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งนำบรรดาข้อกังวลของวอชิงตันไปแจ้งกับคู่เจรจาแดนมังกรอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่เรื่องฮ่องกง ไต้หวันไปจนถึงการโจมตีทางไซเบอร์ ส่วนทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศจีนก็ประกาศจุดยืนของปักกิ่งอย่างไม่มีกั๊ก ย้ำอเมริกาควรทำความเข้าใจจีนอย่างเป็นกลาง เลิกเย่อหยิ่งและมีอคติ ใช้นโยบายที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง พร้อมเตือนว่าความพยายามของสหรัฐฯ ในการขัดขวางการก้าวสู่ความทันสมัยของจีน “มีแต่จะต้องล้มเหลว”

ภายหลังการเยือนจีนของเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ โดยที่ในวันจันทร์ (26 ก.ค.) เธอได้พบเจรจากับทั้ง เซี่ย เผิง รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน และหวัง อี้ มนตรีแห่งและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ที่เมืองเทียนจิน ทางด้าน เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว แถลงที่กรุงวอชิงตันในวันเดียวกันว่า การประชุมดังกล่าวไม่ได้มีข้อตกลงที่เฉพาะเจาะจง รวมทั้งไม่มีการกล่าวถึงการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับตัวเชอร์แมนเอง ที่กล่าวภายหลังการเจรจากับฝ่ายจีนว่า ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการหารือในเรื่องความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมหารือกันระหว่างไบเดน กับ สี ทั้งนี้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกผู้สังเกตการณ์พูดถึงกัน โดยที่มีบางรายคาดเดาว่า เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้ในฐานะเป็นการประชุมข้างเคียงการประชุมซัมมิตกลุ่ม จี7 ในกรุงโรม ตอนสิ้นเดือนตุลาคมนี้

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ระหว่างการหารือ เชอร์แมนได้หยิบยกความกังวลของสหรัฐฯ ในเรื่องสิทธิมนุษยชนด้านต่างๆ ในจีน ทั้งเรื่องฮ่องกง ทิเบต และซินเจียง ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่าปักกิ่งกำเนินการล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอย่างต่อเนื่องต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ที่นั่น ตลอดจนเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ ไต้หวัน ไปจนถึงทะเลจีนใต้

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้หนึ่งพูดถึงการเจรจาคราวนี้ว่า “มีลักษณะมืออาชีพ” แต่ตรงไปตรงมา โดยที่เชอร์แมนคอยพูดครั้งแล้วครั้งเล่า “ด้วยความซื่อสัตย์อย่างสุดโหด” ในประเด็นปัญหาต่างๆ

ขณะที่เชอร์แมนเอง ทวิตว่า ในการหารือกับหวัง เธอ “ได้พูดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่จะแข่งขัน (กับจีน) อย่างที่จะเป็นผลดีต่อทุกๆ ฝ่าย เคารพคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและค่านิยมทางประชาธิปไตย”

ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า เธอยังพูดถึงการที่ปักกิ่งไม่เต็มใจให้ความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการตรวจสอบหาต้นตอของไวรัสโคโรนาอีกรอบ รวมทั้งประเด็นการเข้าถึงของสื่อต่างชาติในจีน

โฆษกซากี ของทำเนียบขาวแถลงในทำนองเดียวกันว่า “เราคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราที่จะต้องเอาสิ่งที่เราพูดในที่สาธารณะ มาพูดพูดตรงๆ กับพวกเจ้าหน้าที่จีนเมื่ออยู่ในที่พบปะกันส่วนตัว”

“มันเป็นผลประโยชน์ของเราที่จะต้องบอกปักกิ่งให้ชัดเจนมากๆ เกี่ยวกับจุดยืนของเรา และอธิบายความกังวลของเราโดยละเอียด” เธอพูดต่อ พร้อมกับบอกว่าสหรัฐฯ เชื่อด้วยว่ามีหลายๆ เรื่องที่ประเทศทั้งสองสามารถทำงานร่วมกันได้ เป็นต้นว่าภัยคุกคามโลกจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เกาหลีเหนือ อิหร่าน อัฟกานิสถาน และพม่า

ในอีกด้านหนึ่ง สื่อของทางการจีนรายงานว่า ระหว่างที่รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน เซี่ย เฟิง หารือกับ เชอร์แมนนั้น เขาพูดเรื่องที่ อเมริกายังคงต้องการฟื้นวัตถุประสงค์แห่งชาติโดยการสร้างภาพให้จีนเป็น “ปีศาจ” และ “ศัตรูในจินตนาการ” เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาภายในประเทศและตีกรอบปิดกั้นจีน

ทางด้านรัฐมนตรีหวัง อี้ ก็ได้สำทับกับเชอร์แมน ระหว่างการประชุมรอบต่อมาว่า สองประเทศควรจัดการความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น แต่เตือนว่า ความพยายามของอเมริกาในการขัดขวางการพัฒนาสู่ยุคสมัยใหม่ของจีนรังแต่จะล้มเหลว

หวัง ยังแสดงความหวังว่า วอชิงตันจะทำความเข้าใจปักกิ่งอย่างเป็นกลางและถูกต้อง เลิกเย่อหยิ่งและมีอคติ หยุดทำตัวเป็นนักเทศก์ และกลับไปใช้นโยบายต่อจีนที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง อีกทั้งเตือนว่า อเมริกาต้องไม่ละเมิดอธิปไตยจีนด้วยการพาดพิงประเด็นสิทธิมนุษยชน พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกการแซงก์ชันและข้อจำกัดการถ่ายโอนเทคโนโลยี

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น