ศบค.กทม. เผย วันนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 37 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,989 ราย เน้นย้ำเข้มงวดการตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด
วันนี้ (11 ม.ค.) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 7/2564 โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะโฆษกของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทน กอ.รมน.กทม. ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 37 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,989 ราย รวมถึงรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และข้อสั่งการจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ซึ่งได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดเข้มงวดการตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยเฉพาะ 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อสกัดกั้นและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่หากประชาชนมีความจำเป็นจะต้องเดินทางทั้งแบบไป-กลับ หรือค้างคืน ให้ติดต่อขอเอกสารรับรองก่อนเดินทางออกนอกจังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองของแต่ละจังหวัด สำหรับประชาชนที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ยังไม่มีข้อกำหนดให้แสดงเอกสารรับรองออกนอกพื้นที่แต่อย่างใด นอกจากนี้ ให้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการสอบประวัติผู้ป่วยและเข้าสู่ระบบการรักษาได้รวดเร็วขึ้น ตลอดจนช่วยให้แพทย์และพยาบาลสามารถทำงานได้สะดวกขึ้น ปัจจุบันจำนวนยอดดาวน์โหลด ข้อมูลจากวันที่ 4-10 ม.ค. 64 มีจำนวนผู้ดาวน์โหลด 6.34 ล้านครั้ง มีจำนวนผู้ใช้งาน 4,407,201 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น ต้องขอขอบคุณประชาชนที่โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับให้สำนักงานเขตตรวจติดตามสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด และปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ได้มอบหมายสำนักพัฒนาสังคมพิจารณาจัดทำแผนรองรับและมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโตวิด-19 รวมทั้งมอบหมายให้สำนักการศึกษาประสานสำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความสะอาดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน เมื่อแนวโน้มของสถานการณ์คลี่คลายลง
