รอยเตอร์ – เกษตรกรบราซิลในรัฐโกยาสเริ่มต้นโครงการนำร่องเมื่อวานนี้(3 พ.ย)ในการใช้เทคโนโลยีเครือข่าย 5G กับเครื่องมือบริษัทหัวเว่ยของจีนในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร พบมีการติดตั้งเครื่องเซนเซอร์ในไร่ถั่วเหลืองเพื่อรวบรวมข้อมูล รวมถึงส่งโดรนออกไปตรวจสอบ
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(3 ธ.ค)ว่า โครงการนำร่องเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรโดยการใช้เทคโนโลยี 5G ของบริษัทหัวเว่ยในรัฐโกยาส (Goiás) ของบราซิลที่ได้เริ่มต้นขึ้นในวันพฤหัสบดี(3) เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะแบนการใช้อุปกรณ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ทางโทรคมนาคมของจีนในการประมูลเครือข่ายระบบ 5G ในปีหน้าหรือไม่
ทั้งนี้เครือข่าย 5G จะทำให้ชาวไร่ถั่วเหลืองบราซิลสามารถพัฒนาผลผลิตผ่านข้อมูลที่ถูกรวบรวมจากเครื่องเซนเซอร์ที่อยู่ในไร่ บนเครื่องเก็บเกี่ยว และโดรน โดยจะเป็นการให้ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาและความชื้น ติอาโก ฟอนเตซ (Tiago Fontes) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดหัวเว่ยบราซิลกล่าว
การรวบรวมข้อมูลผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงในเวลาแบบเรียลไทม์จะช่วยทำให้ชาวไร่ถั่วเหลืองบราซิลสามารถทราบข้อมูลที่ต้องการได้ภายใน 1 ชั่วโมงแทนที่จะต้องใช้เวลาถึง 3 วันตามปกติ และจะทำให้เกษตรกรสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงทีต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นต้นว่าเกิดโรคระบาดในพืช หรือภัยอื่นๆ
ฟอนเตซให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรอยเตอร์ว่า “เราได้เริ่มโครงการนี้สำหรับการปลูกถั่วเหลืองเพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยี 5G กับโดรนได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไรเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดค่าใช้จ่ายยาปราบศัตรูพืช”
รอยเตอร์รายงานว่า หัวเว่ยเป็นสปอนเซอร์สำหรับเครือข่าย 5G และอุปกรณ์ให้กับชาวไร่ถั่วเหลืองบราซิลที่ร่วมโครงการ
โครงการนำร่องนี้เกิดขึ้นที่เมือง Rio Verde รัฐโกยาส และระบบเครือข่าย 5G นั้นสร้างโดยบริษัทผู้ให้บริการเครือข่าย คลาโร( Claro) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเม็กซิโก อเมริกา โมวิล (América Móvil)
หนังสือพิมพ์บราซิล Folha de S.Paulo รายงานในวันพฤหัสบดี(3)โดยอ้างจากแหล่งข่าวรัฐบาลว่า ผู้กำกับโทรคมนาคมบราซิล อานาเทล (Anatel) ได้เสนอกฎเกณฑ์ที่ระบุว่าจะไม่ตัดบริษัทโทรคมนาคมจีนออกจากการประมูลเครือข่าย
ซึ่งบริษัทผู้ให้บริการในบราซิลเป็นต้นว่า คลาโร ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยที่บราซิลจะกีดกันหัวเว่ยเนื่องมาจากบริษัทผู้ให้บริการได้ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยแล้ว
ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลบราซิลตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯที่ต้องการสั่งห้ามใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง